วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การแทรกรูปร่าง (Shape)

การแทรกรูปร่าง (Shape)
          Shape คือ รูปทรงสำเร็จรูปแบบต่าง ๆ ที่มีมาพร้อมกับชุด Microsoft Office ทุกรุ่น ซึ่งเราสามารถนำรูปทรงเหล่านั้นมาใช้ง่าย ๆ ดังนี้
1.   คลิกที่แทรก (Insert)
2.   Shape (รูปร่าง)
3.   คลิกที่รูปทรงในหมวดที่ต้องการ

4.   นำเมาส์มาวาดในเอกสาร โดยการกดเมาส์ค้างไว้ แล้วลากไปจนได้รูปทรงที่ต้องการ

การปรับแต่งรูปร่าง
1. คลิกเลือกที่รูปร่าง




วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การเชื่อมโยง (Hyperlink)

การเชื่อมโยง (Hyperlink) เป็นการเชื่อมต่อจากภาพนิ่งหนึ่งไปยังอีกภาพนิ่งหนึ่งในงานนำเสนอเดียวกัน เช่น การเชื่อมโยงหลายมิติไปยังการนำเสนอแบบกำหนดเอง หรือไปยังภาพนิ่งในงานนำเสนออื่น ที่อยู่อีเมล เว็บเพจ หรือแฟ้ม
สามารถสร้างการเชื่อมโยงได้จากข้อความหรือวัตถุ เช่น รูปภาพ กราฟ รูปร่าง หรืออักษรศิลป์

1. การเชื่อมโยงในงานนำเสนอเดียวกัน
    1. ในมุมมอง 'ปกติ' ให้เลือกข้อความหรือวัตถุที่คุณต้องการใช้เป็นการเชื่อมโยงหลายมิติ
    2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม การเชื่อมโยง ให้คลิก การเชื่อมโยงหลายมิติ 
    3. ภายใต้ เชื่อมโยงไปยัง ให้คลิก ตำแหน่งในเอกสารนี้
    4. ให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
        4.1 เชื่อมโยงไปยังการนำเสนอแบบกำหนดเองในงานนำเสนอปัจจุบัน
              4.1.1 ภายใต้ เลือกตำแหน่งในเอกสารนี้ ให้คลิกการนำเสนอแบบกำหนดเองที่คุณต้องการใช้เป็นปลายทางของการเชื่อมโยงหลายมิติ
               4.1.2 เลือกกล่องกาเครื่องหมาย นำเสนอแล้วกลับไปที่เดิม
        4.2 การเชื่อมโยงไปยังภาพนิ่งในงานนำเสนอปัจจุบัน
              ภายใต้ เลือกตำแหน่งในเอกสารนี้ ให้คลิกภาพนิ่งที่คุณต้องการใช้เป็นปลายทางของการเชื่อมโยงหลายมิติ

2. การเชื่อมโยงในงานนำเสนออื่น
    1. ในมุมมอง 'ปกติ' ให้เลือกข้อความหรือวัตถุที่คุณต้องการใช้เป็นการเชื่อมโยงหลายมิติ
    2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม การเชื่อมโยง ให้คลิก การเชื่อมโยงหลายมิติ
    3. ภายใต้ เชื่อมโยงไปยัง ให้คลิก แฟ้มหรือเว็บเพจที่มีอยู่
    4กำหนดตำแหน่งงานนำเสนอที่มีภาพนิ่งที่คุณต้องการเชื่อมโยง
    5. คลิก ที่คั่นหน้า แล้วคลิกชื่อของภาพนิ่งที่คุณต้องการเชื่อมโยง

3. การเชื่อมโยงที่อยู่อีเมล
    1. ในมุมมอง 'ปกติ' ให้เลือกข้อความหรือวัตถุที่คุณต้องการใช้เป็นการเชื่อมโยงหลายมิติ
    2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม การเชื่อมโยง ให้คลิก การเชื่อมโยงหลายมิติ
    3. ภายใต้ เชื่อมโยงไปยัง ให้คลิก ที่อยู่อีเมล
    4. ในกล่อง ที่อยู่อีเมล ให้พิมพ์ที่อยู่อีเมลที่คุณต้องการเชื่อมโยง หรือในกล่อง ที่อยู่อีเมลที่ใช้ล่าสุด ให้คลิกที่อยู่อีเมล
    5. ในกล่อง เรื่อง ให้พิมพ์ชื่อเรื่องของข้อความอีเมล

4. การเชื่อมโยงเพจหรือแฟ้มในเว็บ
    1. ในมุมมอง 'ปกติ' ให้เลือกข้อความหรือวัตถุที่คุณต้องการใช้เป็นการเชื่อมโยงหลายมิติ
    2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม การเชื่อมโยง ให้คลิก การเชื่อมโยงหลายมิติ
    3. ภายใต้ เชื่อมโยงไปยัง ให้คลิก แฟ้มหรือเว็บเพจที่มีอยู่ แล้วคลิก เรียกดูเว็บ รูปปุ่ม
    4. กำหนดตำแหน่งและเลือกเพจหรือแฟ้มที่คุณต้องการเชื่อมโยง แล้วคลิก ตกลง

5. การเชื่อมโยงแฟ้มใหม่
    1. ในมุมมอง 'ปกติ' ให้เลือกข้อความหรือวัตถุที่คุณต้องการใช้เป็นการเชื่อมโยงหลายมิติ
    2. บนแท็บ แทรก ในกลุ่ม การเชื่อมโยง ให้คลิก การเชื่อมโยงหลายมิติ
    3. ภายใต้ เชื่อมโยงไปยัง ให้คลิก สร้างเอกสารใหม่
    4. ในกล่อง ชื่อเอกสารใหม่ ให้พิมพ์ชื่อแฟ้มที่คุณต้องการสร้างและเชื่อมโยง
    5. ถ้าคุณต้องการสร้างเอกสารในตำแหน่งอื่น ภายใต้ เส้นทางแบบเต็ม ให้คลิก เปลี่ยน แล้วเรียกดูตำแหน่งที่คุณต้องการสร้างแฟ้ม จากนั้นคลิก ตกลง
    6. ภายใต้ แก้ไขเมื่อไร ให้คลิกว่าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงแฟ้มเดี๋ยวนี้หรือภายหลัง

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. หน่วยความจำประกอบด้วยกี่หน่วย อะไรบ้าง
2. หน่วยใดที่เปรียบเสมือนมันสมองของคอมพิวเตอร์
3. ฮาร์ดแวร์ที่สำคัญในหน่วยประมวลผลกลางคืออะไร
4. การทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยกี่หน่วย อะไรบ้าง
5. หน่วยประมวลผลกลางมีขั้นตอนการทำงานกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สร้างสไลด์มัลติมีเดีย

สร้างสไลด์มัลติมีเดีย
          เนื้อหาภายในสไลด์นอกจากจะมีข้อความและรูปภาพแล้ว หากต้องการนำเสนอสไลด์ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เช่น การนำเสนอที่ต้องการนำไปแสดงโชว์อัตโนมัติในงานบริษัท เปิดตัวสินค้า หรืองานแต่งงาน อาจจะนำเสียงและภาพเคลื่อนไหวประเภทวิดีโอ หรือแฟลชมูฟวี่เข้ามาใส่เพิ่มได้ ซึ่งจะทำให้งานนำเสนอนั้นมีข้อมูลครบทั้งภาพและเสียง ทำให้ดูตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น โดยในบทนี้เราจะมาดูวิธีการนำข้อมูลประเภทมัลติมีเดียมาใส่ในสไลด์

การใส่ภาพเคลื่อนไหว และไฟล์วิดีโอ
          คุณสามารถใส่ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพวิดีโอคลิปลงไปในสไลด์ได้ โดยไฟล์วิดีโอที่สามารถนำมาวางบนสไลด์จะเป็นไฟล์ประเภท AVI, WMV, MPEG, และ ASF ซึ่งมีนามสกุล .avi, .wmv, .mpg, .mpeg และ .asf ซึ่งบางไฟล์อาจมีเสียงประกอบใส่มาด้วย
          นอกจากนี้คุณสามารถดูและเล่นภาพวิดีโอบนงานนำเสนอได้แบบเต็มหน้าจอ เมื่อเครื่องของคุณมีการติดตั้ง Microsoft Windows Media Player รุ่น 8 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า ถ้าไม่มีตัวถอดรหัสภาพและเสียง โปรแกรมก็จะพยายามดาวน์โหลดตัวถอดรหัสดังกล่าวโดยใช้เทคโนโลยีของ Window Media Player ส่วนวิธีการแทรกมีเดียต่างๆ ทำได้ดังนี้
ปรับแต่งตัวเลือกการแสดงวิดีโอ
ตัวเลือกปรับแต่งการแสดงของไฟล์วิดีโอ บนแท็บ Options มีดังนี้
Play Movie (เล่นภาพยนตร์) เลือกการเริ่มแสดงวิดีโอ
  • Automatically (อัตโนมัติ) ให้เล่นภาพอัตโนมัติเมื่อสั่งสไลด์โชว์
  • When Clicked (เมื่อคลิก) ให้เริ่มเล่นเมื่อคลิกเมาส์บนพื้นที่ของวิดีโอ
  • Play across slides ให้เล่นข้ามไปยังสไลด์อื่นจนกว่าจะจบเนื้อหาในวิดีโอนั้น
Loop until stopped (วนรอบจนกว่าจะสั่งหยุด) เมื่อแสดงวิดีโอนั้นจนจบแล้ว ให้วนกลับไปแสดงใหม่ จนกว่าจะคลิกเมาส์ยกเลิก
Rewind Movie After Playing (กรอภาพยนตร์กลับหลังจากเล่นแล้ว) ให้กรอวิดีโอกลับไปยังจุดเริ่มต้นทุกครั้ง เมื่อเล่นจบแล้ว
Hide During Show (ซ่อนระหว่างการนำเสนอ) ให้ซ่อนพื้นที่ของวิดีโอ เมื่อเล่นจบแล้ว
Play Full Screen (เล่นเต็มหน้าจอ) ให้ขยายการแสดงผลเต็มจอภาพ
การใส่เสียงในสไลด์
          เสียงที่นำมาใส่ในสไลด์อาจอยู่ในรูปของไฟล์ อาจเป็นเสียงดนตรี เพลง เสียงที่บันทึกไว้เอง หรือจะใช้ดนตรีจากแผ่นซีดีเพลงมาใส่ในสไลด์ก็ได้ เมื่อนำมาใส่ในสไลด์จะเห็นเป็นรูปลำโพง ซึ่งสามารถจะกำหนดให้เล่นเมื่อเริ่มฉายสไลด์ หรือเมื่อคลิกเมาส์ขณะฉายสไลด์ก็ได้

แทรกไฟล์เสียง
          การเลือกไฟล์เสียงประเภทต่างๆ ที่เก็บไว้พายในเครื่อง นำมาใช้งานบนสไลด์ทำได้ดังนี้
ตัวเลือกการแสดงผลของไฟล์เสียงในขั้นที่ 6 มี 2 แบบ คือ
Automatically (อัตโนมัติ) ให้เล่นเสียงทันทีอัตโนมัติเมื่อสั่งโชว์สไลด์
When Clicked (เมื่อคลิก) ให้แสดงเสียงเมื่อคลิกเมาส์ที่ไอคอนเสียงเท่านั้น

ขอบคุณที่มา : http://powerpointbook.blogspot.com/2012/01/10.html

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สไลด์ Effect

สไลด์ Effect
          การสร้างงานนำเสนอที่น่าสนใจ อาจจะต้องใส่เอฟเฟ็คต์ หรือลูกเล่นเพิ่มเติมลงไปได้ โดยโปรแกรม PowerPoint จะมีเครื่องมือต่างๆ ให้คุณสร้างเอฟเฟ็คต์ (Effect) ให้กับสไลด์ได้หลายแบบ เพื่อช่วยให้ผู้ฟังไม่เบื่อขณะฟังบรรยาย เช่น เอฟเฟ็คต์เปลี่ยนแผ่นสไลด์, ใส่เสียงประกอบขณะเปลี่ยนสไลด์, ให้แสดงรูปภาพทีละภาพ หรือให้ข้อความวิ่งจากขวามาซ้าย เป็นต้น ซึ่งเอฟเฟ็คต์เหล่านี้จะมีทั้งเสียง (Sound Effect) และการเคลื่อนไหว (Animation Effect) ที่สามารถนำมาใช้ได้กับออบเจ็คต่างๆ ที่มีอยู่ในสไลด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, กราฟ หรือ SmartArt เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในงานนำเสนอ และยังช่วยซ่อนออบเจ็คไว้ก่อนแล้วค่อยๆแสดงตามลำดับที่เราต้องการได้

เครื่องมือสร้างเอฟเฟ็คต์
          โปรแกรม PowerPoint ได้เตรียมเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างเอฟเฟ็คต์ในสไลด์ไว้ในแท็บชื่อ Animation (ภาพเคลื่อนไหว) ซึ่งจะมีกลุ่มคำสั่งที่ใช้กำหนดเอฟเฟ็คต์ให้ออบเจ็คและเอฟเฟ็คต์การเปลี่ยนแผ่นสไลด์ดังภาพ
ใส่เอฟเฟ็คต์ขณะเปลี่ยนแผ่นสไลด์ (Slide Transition)
          ขณะฉายสไลด์สามารถใส่เอฟเฟ็คต์ช่วงที่กำลังเปลี่ยนไปแสดงสไลด์ถัดไปนั้น ซึ่งจะมีเอฟเฟ็คต์ให้เลือกหลายแบบ เช่น ให้สไลด์ค่อยๆจางหายไป เลื่อนจากบนลงล่าง หรือหมุนวน เป็นต้น และเลือกใส่เสียงประกอบขณะเปลี่ยนสไลด์ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ปรับแต่งการแสดงผลเอฟเฟ็คต์
กำหนดความเร็วของเอฟเฟ็คต์
          คุณสามารถกำหนดความเร็วของการแสดงเอฟเฟ็คต์ได้ ว่าจะให้แสดงช้าหรือเร็ว โดยคลิกที่ปุ่ม Trasition Speed (ความเร็วในการเปลี่ยน) ซึ่งจะมีให้เลือก 3 แบบคือ
  • Slow แสดงแบบช้าๆ
  • Medium ความเร็วปานกลาง
  • Fast แสดงแบบรวดเร็ว
กำหนดเสียงเอฟเฟ็คต์
          นอกจากการแสดงเอฟเฟ็คต์เป็นภาพเคลื่อนไหวแบบเงียบๆแล้ว คุณสามารถเลือกที่จะให้แสดงเสียงประกอบด้วยได้ เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจผู้ชมให้รู้ว่าต่อไปจะเปลี่ยนขึ้นสไลด์แผ่นใหม่แล้ว ซึ่งเลือกเสียงได้ดังภาพ
ตั้งเวลาเปลี่ยนสไลด์
          โดยปกติเมื่อเราเลือกเอฟเฟ็คต์แล้วไม่ได้เลือกอย่างอื่นเพิ่มเติม เมื่อสั่งสไลด์โชว์ โปรแกรมPowerPoint จะตั้งค่าการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ให้เป็น On Mouse Click หมายถึงคุณต้องคลิกเมาส์จึงจะขึ้นสไลด์แผ่นถัดไปให้ แต่คุณสามารถตั้งเวลาให้เปลี่ยนแผ่นสไลด์อัตโนมัติได้ ซึ่งจะเหมาะสำหรับการแสดงสไลด์ที่ไม่มีคนควบคุม คือให้ฉายไปเรื่อยๆ ทำได้โดยกำหนดเวลาบนแท็บ Animation ดังนี้
  • On Mouse Click (เมื่อคลิกเมาส์) ให้เปลี่ยนแผ่นสไลด์เมื่อคลิกเมาส์
  • Automatically After (อัตโนมัติหลังจาก) กำหนดเวลา (นาที:วินาที) ที่จะให้ขึ้นสไลด์แผ่นถัดไป

นำไปใช้กับสไลด์ทั้งหมด
          โดยปกติเมื่อเราเลือกเอฟเฟ็คต์ เสียง ความเร็วและตั้งเวลาไปแล้ว การเลือกเหล่านั้นจะมีผลกับสไลด์แผ่นที่เลือกเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น หากคุณต้องการนำเอาตัวเลือกทั้งหมดไปใช้กับสไลด์ทุกแผ่นที่มีอยู่ในไฟล์นำเสนอก็คลิกที่ปุ่ม Apply To All (นำไปใช้กับทั้งหมด) บนแท็บ Animation (ภาพเคลื่อนไหว)
ใส่เอฟเฟ็คต์ให้ออบเจ็คในสไลด์
          นอกจากการใส่เอฟเฟ็คต์ขณะเปลี่ยนแผ่นสไลด์แล้ว คุณยังสามารถใส่เอฟเฟ็คต์การเคลื่อนไหวที่เรียกว่า "Animation" ให้กับ "ออบเจ็ค" ต่างๆที่มีอยู่ในสไลด์ เช่นข้อความ, รูปภาพ, รูปวาด, กราฟ, ไดอะแกรม, ตาราง และอื่นๆ โดยขณะฉายสไลด์แทนที่จะแสดงข้อความหรือรูปทั้งหมดออกมาพร้อมกันทีเดียว ก็อาจจะสร้างความน่าสนใจด้วยการสั่งให้แสดงภาพทีละภาพ หรือแสดงข้อความทีละย่อหน้า หรือทีละบรรทัดได้ โดยสามารถเลือกการเคลื่อนไหวที่ต่างกันได้ ซึ่งโปรแกรมจะมีคำสั่งให้คุณใช้กำหนดการเคลื่อนไหวให้ออบเจ็คในสไลด์หลายแบบและหลายกลุ่ม โดยแยกออกเป็นเอฟเฟ็คต์แบบเรียบๆไปจนถึงเอฟเฟ็คต์ที่ดูหวือหวาตื่นตาตื่นใจ ส่วนวิธีการกำหนดการเคลื่อนไหวจะทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้

กำหนดการเคลื่อนไหวด้วยตนเอง (Custom Animation)
          หากคุณต้องการเลือกเอฟเฟ็คต์แบบอื่นๆ หรือการเคลื่อนไหวของแต่ละข้อความเอง ซึ่งออบเจ็คหนึ่งๆ สามารถแสดงการเคลื่อนไหวได้ 3 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ ขณะเริ่มแสดงออบเจ็ค, เน้นเมื่อมาถึง และช่วงที่จบการแสดงของออบเจ็คนั้น และในแต่ละช่วงนั้น คุณสามารถจะใส่เอฟเฟ็คต์ได้หลายๆแบบด้วยการเปิดหน้าต่างงาน Custom Animation (ภาพเคลื่อนไหวแบบกำหนดเอง) ขึ้นมาดังรูปถัดไป
ใส่เอฟเฟ็คต์การเคลื่อนไหว
  • เมื่อคลิกที่ปุ่ม Add Effect (เพิ่มลักษณะพิเศษ) จะมีรายชื่อเอฟเฟ็คต์ที่คุณเรียกใช้บ่อยๆ หรือใช้ไปล่าสุด โดยจะแสดง 9 ชื่อสุดท้ายเอาไว้ ซึ่งมาสามารถเรียกใช้งานได้ทันที
ช่วงเวลาแสดงของเอฟเฟ็คต์
          เมื่อคลิกปุ่ม Add Effect เพื่อกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับออบเจ็คนั้น เราสามารถกำหนดเอฟเฟ็คต์ได้ 3 ช่วงเวลา โดยแต่ละช่วงเวลาจะมีไอคอนแสดงกำกับเพื่อบอกให้ทราบด้วยดังนี้
  • Entrance (เข้า) คือเอฟเฟ็คต์ที่แสดงขณะที่ออบเจ็คกำลังเข้ามาในสไลด์
  • Emphasis (ตัวเน้น) คือให้แสดงเพื่อเน้นออบเจ็ค เมื่อออบเจ็คนั้นแสดงอยู่ในสไลด์แล้ว
  • Exit (นำออก) คือให้แสดงเมื่อจะไม่แสดงออบเจ็คนั้นในสไลด์
เลือกเอฟเฟ็คต์เพิ่มเติม
          นอกจากรายชื่อเอฟเฟ็คต์ที่เห็นในกรอบที่ใช้งานไปล่าสุดแล้ว คุณสามารถเลือกรายการเอฟเฟ็คต์แบบอื่นๆเพิ่มเติมได้ ซึ่งโปรแกรมจะมีให้เลือกใช้งานได้หลายกลุ่ม ดังนี้
ปรับแต่งรายละเอียดเอฟเฟ็คต์
          เอฟเฟ็คต์บางตัวสามารถปรับแต่งค่าเพิ่มเติมได้ เช่น แบบ Fly In ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้ออบเจ็คนั้นเคลื่อนที่มาจากทิศทางใด เช่น จากซ้าย (From Left) หรือจากด้านบน (Form Top) เป็นต้น หรือเอฟเฟ็คต์แบบ Spin ก็มีตัวเลือกว่าจะให้หมุนกี่รอบ เป็นต้น ซึ่งเอฟเฟ็คต์แต่ละแบบจะมีตัวเลือกปรับแต่งในการแสดงผลที่ไม่เหมือนกันดังภาพ

ยกเลิกเอฟเฟ็คต์
          ถ้าไม่ต้องการใช้งานเอฟเฟ็คต์ที่กำหนดไปแล้ว ก็ยกเลิกออกไปได้โดยคลิกเลือกเลขลำดับของเอฟเฟ็คต์ที่จะยกเลิก หรือคลิกเลือกบนหน้าต่างงาน Custom Animation ได้ดังนี้
ให้เอฟเฟ็คต์เริ่มทำงาน
          โดยปกติเมื่อเรากำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับออบเจ็คแล้ว ตัวเลือกการแสดงออบเจ็คในช่อง Start (เริ่ม) จะเป็น On Click คือเมื่อคลิกเมาส์ แต่ยังมีตัวเลือกการเริ่มทำงานแบบอื่นให้เลือกได้อีกดังนี้
  • On Click (เมื่อคลิก) เมื่อคลิกเมาส์จึงจะแสดงออบเจ็คนี้
  • With previous (กับก่อนหน้านี้) ให้แสดงออบเจ็คนี้พร้อมกับออบเจ็คก่อนหน้า (อัตโนมัติ)
  • After Previous (หลังก่อนหน้านี้) ให้แสดงออบเจ็คนี้หลังจากออบเจ็คก่อนหน้าแสดงเสร็จแล้ว (อัตโนมัติ)
จัดลำดับของเอฟเฟ็คต์
          เป็นการจัดลำดับของเอฟเฟ็คต์ใหม่ เพื่อให้การแสดงผลเป็นไปตามลำดับที่เราต้องการได้ ว่าจะให้ออบเจ็คไหนมาก่อนมาหลัง โดยการเลื่อนเอฟเฟ็คต์ขึ้น-ลง ได้ดังภาพ

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โปรแกรม Power Point 2010

สร้างและจัดการ Presentation

         

          เมื่อเปิดโปรแกรม PowerPoint ขึ้นมาครั้งแรกจะปรากฎแผ่นสไลด์เปล่าว่ให้ 1 แผ่น เพื่อเริ่มต้นทำงาน ซึ่งปกติสไลด์แผ่นแรกจะใช้แสดงหัวเรื่องงานนำเสนอ หรือชื่อผู้บรรยาย หรือชื่อบริษัท หลังจากนั้นก็สามารถเพิ่มสไลด์แผ่นอื่นๆ เข้ามาได้ตามต้องการ หรือจะสร้างงานนำเสนอใหม่โดยเลือกรูปแบบการจัดวางข้อมูล หรือรูปแบบสไลด์ใหม่ได้
เพิ่มสไลด์แผ่นใหม่
          โดยปกติเมื่อเราสร้างงานพรีเซนเทชันใหม่ เริ่มแรกโปรแกรมจะมีสไลด์ให้จำนวน 1 แผ่น คือแผ่นที่เป็นหัวเรื่อง หรือ Title Slide แต่สามารถเพิ่มจำนวนสไลด์เข้ามาได้ไม่จำกัดขั้นอยู่กับเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ และเลือกแบบเค้าโครงการจัดวางเนื้อหาภายในสไลด์ (Layout) ได้ตามความเหมาะสมของงานที่ต้องการนำเสนอ ทำได้ดังนี้


การเปลี่ยนเค้าโครงสไลด์
          เค้าโครง (Layout) คือลักษณะการจัดวางองค์ประกอบของออบเจ็คภายในแผ่นสไลด์ ว่าต้องการให้แสดงอะไรส่วนไหนบ้าง เช่น มีแต่ข้อความหัวเรื่องอย่างเดียว มีหัวเรื่องกับเนื้อหา หรือวางเนื้อหาออกเป็น 2 คอลัมน์ ซ้าย-ขวา เป็นต้น และในแต่ละแบบก็จะมีปุ่มให้แทรกออบเจ็คเข้ามาใส่ในสไลด์ตามแบบที่เลือกโดยปกติเมื่อเราใช้คำสั่ง New Slide ก็จะให้เลือกเค้าโครงด้วย แต่ถ้ากด Ctrl+M โปรแกรมจะเลือกแบบสไลด์ตามคำสั่งที่สร้างในครั้งสุดท้าย หากต้องการเปลี่ยนเค้าโครงสไลด์ สามารถทำได้ดังนี้


การใส่เนื้อหาตามเค้าโครงสไลด์
          เค้าโครงแบบต่างๆ ที่เราเลือกมาใช้งานดังหัวข้อที่ผ่านมาจะมีหลายแบบแต่ละแบบก็จะมีการใส่ข้อมูลที่แตกต่างกัน แต่หลักๆ การใส่ข้อมูลตามโครงสร้างของสไล์ทำได้ดังนี้


บันทึกพรีเซนเทชัน
          การสร้างและออกแบบฟรีเซนเทชันเอาไว้อย่างสวยงามอาจจะใช้เวลานาน ขณะที่ออกแบบอาจจะบันทึกเก็บลงไฟล์เอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย จะได้สร้างไปบันทึกไป หรือนำกลับมาใช้งานภายหลังได้อีก ซึ่งการบันทึกจะมีหลายวิธีเพื่อจัดเก็บข้อมูลลงในรูปแบบต่างๆ ดังนี้


1. คลิกปุ่ม Office แล้วคลิกคำสั่ง Save (บันทึก)
2. ในช่อง File name (ชื่อแฟ้ม) ตั้งชื่อไฟล์พรีเซนเทชัน
3. ในช่อง Save as type (บันทึกเป็นชนิด) เลือกประเภทของไฟล์พรีเซนเทชันที่จะบันทึก
4. คลิกปุ่ม Save (บันทึก) เพื่อบันทึกไฟล์

ขอบคุณที่มา : http://powerpointbook.blogspot.com/2011/12/2-presentation.html